วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

คนท้องกินยาแก้แพ้ อันตรายกับลูกในครรภ์ไหม ?

คนท้องกินยาแก้แพ้


         ด้วยสภาพแวดล้อมในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย บางครั้งอากาศเปลี่ยนเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน และทำให้คุณแม่ท้องเป็นหวัด คัดจมูกได้ง่าย มีอาการน้ำมูกไหล และอาจเผลอไปกินยาแก้แพ้โดยไม่รู้ตัว ยิ่งคุณแม่ท้องที่เคยเป็นโรคภูมิแพ้อยู่ก่อนแล้วก็อาจกินเพราะความเคยชิน เลยทำให้เกิดความวิตกกังวลได้ว่า ยาแก้แพ้ที่กินเข้าไปจะมีผลกับลูกในครรภ์อย่างไร กินยาแก้แพ้ แบบไหนที่ปลอดภัยกับแม่ท้องบ้าง ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ


ยาแก้แพ้ ที่แม่ท้องกินได้ 

ยาแก้แพ้มีด้วยกันหลายชนิด แต่ที่ปลอดภัยและแม่ท้องกินได้คือ คลอร์เฟนิรามีน หรือ CPM มีคุณสมบัติแก้อาการแพ้ คัน และลดน้ำมูก ซึ่งแม่ท้องที่กินยาแก้แพ้ชนิดนี้ ยังไม่พบว่ามีความผิดปกติกับทารกในครรภ์ แต่ยาชนิดนี้เมื่อกินเข้าไปแล้วจะทำให้มีผลข้างเคียงต่อตัวคุณแม่เองคือ มีอาการปากแห้ง รู้สึกมึนงง ง่วงนอน ดังนั้นจึงไม่ควรกินยานี้ระหว่างวัน เวลาที่ต้องทำงาน หรือเวลาที่ต้องเดินทางไปไหนมาไหน เพราะจะทำให้คุณแม่มีอาการง่วงซึม และส่งผลต่อการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้

และยังมียาลดน้ำมูก โตรโรลิดีน หรือ แอคติเฟด ก็เป็นยาแก้แพ้ที่ปลอดภัยกับแม่ท้อง โดยมีคุณสมบัติช่วยลดอาการคัดจมูก บรรเทาอาการโรคภูมิแพ้ทางจมูก และบรรเทาอาการคัดจมูกจากหวัดได้ แต่ก็มีผลข้างเคียงเช่นกันคือ กินแล้วทำให้ง่วงนอน ดังนั้นคุณแม่ที่ต้องทำกิจกรรม หรือขับรถ ไม่ควรกิน เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ ควรกินแล้วสามารถนอนหลับพักผ่อนยาว ๆ ได้ และเมื่อตื่นขึ้นมาอาการก็จะดีขึ้น

นอกจากนี้ยังมียา ฟาเทค ที่รู้จักกันในชื่อของ Cetirizine หรือ Z-Cet เป็นกลุ่มยาแก้แพ้ แก้คัน ลดอาการน้ำมูกไหล มีความปลอดภัยกับแม่ท้อง ไม่มีอันตรายกับลูกน้อยในครรภ์ และการใช้ยาตัวนี้มีข้อดีคือ กินแล้วไม่ค่อยง่วง บางคนก็ไม่ง่วงเลย เหมาะกับคุณแม่ที่ต้องทำกิจกรรมหรือทำงานช่วงกลางวัน จะได้ไม่ง่วงซึม สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ แต่ข้อเสียคือยาจะออกฤทธิ์ช้า ทำให้อาการหายช้ากว่าตัวยาอื่น ๆ นั่นเองค่ะ

ระวัง ยาแก้แพ้ชนิดนี้ อันตรายกับแม่ท้อง !

มียาแก้แพ้ที่ปลอดภัยกับแม่ท้อง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณแม่ท้องกินยาแก้แพ้ได้ทุกชนิด เพราะมีบางชนิดที่เป็นอันตรายคือ บรอมเฟนิรามีน เนื่องจากเคยมีการพบว่ามีโอกาสทำให้ทารกพิการในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ได้ จึงไม่ควรใช้ยานี้กับคุณแม่ท้อง เพราะตัวยาจะถูกดูดซึมเข้าร่างกายและไปสู่ลูกน้อยในครรภ์ได้ค่ะ

และเพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดกับลูกน้อยในครรภ์ จึงมีการผลิตยาบรรเทาหวัด คัดจมูก ในรูปแบบของยาหยด หรือยาพ่นจมูก ซึ่งยาชนิดนี้แทบไม่ถูกดูดซึมไปยังลูกน้อยในครรภ์เลย และช่วยบรรเทาอาการน้ำมูกไหลได้ดี จึงมีความปลอดภัยกับแม่ท้อง แต่อย่างไรก็ตามต้องใช้ยาพ่นอย่างถูกวิธี และอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ก่อนเสมอค่ะ

แม้จะกินยาแก้แพ้ได้ แต่ก็ต้องระวังเป็นพิเศษ

สำหรับคุณแม่ท้อง ยังไงก็ต้องระวังเรื่องการกินยามากกว่าคนทั่วไป และถึงแม้ยาแก้แพ้ทั่วไปจะปลอดภัยกับคุณแม่ท้อง กินแล้วไม่เป็นอันตรายกับลูกในครรภ์ แต่ก็มีข้อควรระวัง ดังนี้

- ช่วงตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก ก่อนใช้ยาแก้แพ้ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง เพื่อแพทย์จะได้แนะนำตัวยาที่มีความปลอดภัยให้คุณแม่ท้อง

- หากมีประวัติแพ้ยาก่อนตั้งครรภ์ ช่วงตั้งครรภ์ยิ่งไม่ควรกิน

- ไม่ควรกินยาแก้แพ้ร่วมกับวิตามิน อาหารเสริม และสมุนไพร หากต้องกินร่วมกับยาชนิดอื่น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง

- ไม่ควรกินติดต่อกันนานเกิน 2-3 วัน

- หากไปซื้อยาแก้แพ้เองที่ร้านขายยา ควรแจ้งว่าตั้งครรภ์ เพื่อเภสัชกรจะได้เลือกตัวยาที่ปลอดภัยให้

- หากกินแล้วอาการไม่ดีขึ้น ต้องรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุของอาการอย่างละเอียดอีกครั้ง

หายกังวลใจแล้วใช่ไหมคะ สำหรับคุณแม่ท้องที่เผลอกินยาแก้แพ้เข้าไป หรือกำลังคิดจะกินเพราะมีอาการน้ำมูกไหล หรือเป็นภูมิแพ้อยู่ ว่าสามารถกินยาแก้แพ้ได้ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าคนท้องกินยาแก้แพ้ ต้องเลือกตัวยาที่มีความปลอดภัย และไม่ควรกินต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ยิ่งในช่วงตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก การกินยาต่าง ๆ ควรปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด เพื่อให้ลูกน้อยในครรภ์ปลอดภัยไว้ก่อนค่ะ

คนท้องกินยาแก้แพ้

ที่มา >>>kapook

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เงินอุดหนุนบุตรเดือนกรกฎาคม 2565 โอน 600 บาท เข้าบัญชีพ่อแม่วันนี้ เช็กเลย

    เงินอุดหนุนบุตร เดือนกรกฎาคม 2565 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เผย เงินอุดหนุนเด็ก 600 บาท ออกวันศุกร์ที่ 8 กร...