วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2561

โนโรไวรัส การติดเชื้อท้องเสียที่กำลังระบาดในเด็ก อันตรายแค่ไหน ?




      โนโรไวรัส การติดเชื้อท้องเสียที่กำลังระบาดในเด็กช่วงนี้ เตือนพ่อแม่อย่านิ่งนอนใจ มาดูวิธีสังเกตอาการกัน ช่วงนี้เชื่อว่าใคร ๆ ก็ต้องได้ยินชื่อของ "โนโรไวรัส" กันอยู่บ่อย ๆ ซึ่งถือเป็นไวรัสชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการท้องเสีย ที่กำลังระบาดในกลุ่มเด็ก ๆ อยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะในโรงเรียนต่าง ๆ จะพบเด็กป่วยเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังเป็นกังวลใจ กลัวว่าลูกจะติดเชื้อหรือป่วย ซึ่งจะมีวิธีสังเกตอาการ วิธีรักษา หรือวิธีป้องกันอย่างไรได้บ้าง วันนี้กระปุกดอทคอมมีข้อมูลของโนโรไวรัสมาให้ศึกษากันแล้วค่ะ


โนโรไวรัส คืออะไร
         
          โนโรไวรัส (Norovirus) เดิมชื่อ นอร์วอล์กไวรัส (Norwalk Virus) เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อท้องเสีย ที่ไม่ใช่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เป็นโรคที่สามารถติดต่อกันได้ผ่านการรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส รวมถึงการสัมผัสหรือโดนละอองอาเจียนของผู้ป่วยที่มีเชื้อก็สามารถติดต่อกันได้ ดังนั้นโนโรไวรัสจึงสามารถเกิดการระบาดได้ง่ายมาก โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กตามโรงเรียนที่อยู่ร่วมกันเยอะ ๆ จะพบได้บ่อย และติดต่อกันได้ในเวลาอันสั้น

          ทั้งนี้ เชื้อโนโรไวรัสจะมีความคงทนมากต่อสภาพแวดล้อม โดยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือแอลกอฮอล์ไม่สามารถฆ่าเชื้อได้ และมักจะระบาดในฤดูหนาว นอกจากนี้ยังเป็นเชื้อที่อันตรายถึงชีวิตได้หากไม่รีบรักษา ซึ่งอัตราการเสียชีวิตนั้นมักจะพบได้บ่อยในเด็กเล็ก คนสูงอายุ หรือคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เป็นต้น

โนโรไวรัส อาการเป็นอย่างไร

          หากติดเชื้อโนโรไวรัสส่วนใหญ่จะมีอาการแสดงออกหลังจากที่ได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกายภายในเวลา 1-2 วัน โดยจะมีอาการท้องเสีย ปวดท้อง ถ่ายเหลวเป็นน้ำ อาเจียนอย่างรุนแรง ปวดศีรษะ มีไข้ และอ่อนเพลีย ซึ่งบางรายก็จะมีอาการมากหรือน้อยแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่อาการมักจะดีขึ้นภายใน 1-3 วันหลังจากที่เริ่มมีอาการป่วย

โนโรไวรัส รักษาอย่างไร

          การติดเชื้อท้องเสียจากเชื้อโนโรไวรัสตอนนี้ยังไม่มียารักษาโดยเฉพาะ แต่จะรักษาตามอาการ อย่างเช่น ให้ดื่มเกลือแร่ ให้ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้อาเจียน และรับประทานอาหารอ่อน ๆ จนกว่าอาการจะดีขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปอาการมักจะดีขึ้นภายใน 1-3 วัน แต่ทั้งนี้ถ้าหากเด็กเล็กหรือคนป่วยที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น หากปล่อยไว้นานอาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ ความดันโลหิตต่ำ ช็อก หรือเสียชีวิตได้ ดังนั้นหากรักษาเบื้องต้นแล้วยังไม่ดีขึ้น ให้รีบพาไปโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิดทันที

โนโรไวรัส ป้องกันอย่างไร

          ปัจจุบันถึงแม้จะยังไม่มีวัคซีนป้องกันเชื้อโนโรไวรัส และยาฆ่าเชื้อหรือแอลกอฮอล์ก็ไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้ แต่วิธีป้องกันที่ดีที่สุด ก็คือ...

          - ควรล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ อย่างน้อย 15-30 วินาที (หากเป็นเด็ก ๆ ควรสอนให้ล้างมือพร้อมกับร้องเพลงช้าง 1 จบ) ทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร หรือหลังหยิบจับสิ่งของหรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ

          - รับประทานอาหารที่ยังร้อน ๆ และปรุงสุกใหม่ ๆ และใช้ช้อนกลางเสมอ

          - ดื่มน้ำสะอาด

          - ทั้งนี้ เด็ก ๆ ที่ติดเชื้อท้องเสียโนโรไวรัส พ่อแม่ควรงดให้ลูกไปโรงเรียน และรักษาให้หายดีเสียก่อน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส

          เมื่อรู้จักการติดเชื้อท้องเสียจากเชื้อโนโรไวรัสกันแล้ว หากคุณพ่อคุณแม่คนไหนกลัวว่าลูกจะป่วยก็ควรดูแลและป้องกันไว้เสียตั้งแต่เนิ่น ๆ นะคะ หรือถ้าหากลูก ๆ เริ่มมีอาการท้องเสียหรืออาเจียนก็อย่านิ่งนอนใจ รีบสังเกตและดูว่าเข้าข่ายติดเชื้อโนโรไวรัสหรือไม่ ทั้งนี้จะได้รีบรักษาหรือพาไปพบแพทย์ได้อย่างทันท่วงทีนั่นเอง

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : baby.kapook

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เงินอุดหนุนบุตรเดือนกรกฎาคม 2565 โอน 600 บาท เข้าบัญชีพ่อแม่วันนี้ เช็กเลย

    เงินอุดหนุนบุตร เดือนกรกฎาคม 2565 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เผย เงินอุดหนุนเด็ก 600 บาท ออกวันศุกร์ที่ 8 กร...