วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ปอดบวมในทารก เกิดจากอะไร มีอาการอย่างไร ?


 
      ปอดบวมในทารก โรคยอดฮิตในเด็กเล็กที่คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้จักสาเหตุ สังเกตอาการ และวิธีรับมือ ถ้าไม่อยากให้ลูกน้อยเป็นอันตรายถึงชีวิต !


เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาว สิ่งที่มาพร้อมกับอากาศชื้น ๆ แบบนี้ก็หนีไม่พ้นไข้หวัดทั้งหลาย ซึ่ง โรคปอดบวมในทารก  (Childhood Pneumonia) ก็เป็นอีกหนึ่งโรคยอดฮิตในเด็กเล็ก ที่หากไม่ระวังให้ดีก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ วันนี้กระปุกดอทคอมมีข้อมูลดี ๆ มาให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักสาเหตุ อาการ การรักษา รวมถึงวิธีสังเกตและป้องกัน เมื่อลูกน้อยเป็นปอดบวมมาฝากกันค่ะ

ปอดบวมในทารก เกิดจากอะไร ?

สาเหตุหลักคือการติดเชื้อที่บริเวณปอด และอักเสบจนกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ซึ่งตัวเด็กอาจรับเชื้อมาจากทั้งปัจจัยภายนอก และปัจจัยภายในได้ตามนี้

ปัจจัยภายใน

          - เด็กมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ อาจเพราะไม่ได้ดื่มน้ำนมแม่ หรือฉีดวัคซีนป้องกันโรคไม่ครบถ้วน

          - ติดเชื้อจากโรคระบาดในช่วงนั้น เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก

          - เชื้อโรคดื้อยา เป็นผลมาจากอาหารหรือสารในยาที่คุณแม่กิน แล้วส่งต่อมายังลูกผ่านน้ำนม
ปัจจัยภายนอก

          - อาศัยอยู่ในสถานที่ที่อากาศถ่ายเทไม่ดี ทำให้เชื้อโรคสะสมและเติบโตได้ง่าย

          - รับฝุ่นละออง ควันบุหรี่ และเชื้อโรคติดต่อจากคนรอบข้าง

          อาการปอดบวมในทารก มีอะไรบ้าง สังเกตได้อย่างไร ?

ในช่วงเริ่มต้นจะมีอาการซึม เงียบ ไม่ยอมกิินนม รู้สึกไม่สบายตัว หายใจลำบาก อาจมีไข้อ่อน ๆ เหมือนคนป่วยไข้หวัดทั่วไป ส่วนเด็กที่มีการติดเชื้อที่ปอดกะทันหัน จะมีอาการไอแห้ง หอบเหนื่อย อาเจียน และไข้ขึ้นสูง

หากพบว่าลูกน้อยมีอาการเริ่มต้นดังกล่าว และยังไม่หายภายใน 1-2 วัน ให้คุณแม่สังเกตการหายใจของลูกน้อย ว่าช้าหรือเร็วผิดจากอัตราการผิดปกติหรือไม่ หากผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์ทันที




โรคปอดบวมในทารก มีวิธีรักษาอย่างไร ?

โดยปกติแพทย์จะให้ยาฆ่าเชื้อและรักษาแบบประคับประคอง ถ้าไม่มีอาการดื้อยาก็สามารถหายดีได้ภายใน 1 สัปดาห์ แต่ในกรณีที่เด็กติดเชื้อแล้วกระทบต่อระบบหายใจ หรือเกิดโรคแทรกซ้อนอย่าง ฝีในปอด หรือเกิดน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด แพทย์จะต้องดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด บางรายอาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจร่วมด้วย

ลูกเป็นปอดบวม รับมือและป้องกันยังไงดี ?

นอกจากการดูแลตามกระบวนการรักษาที่แพทย์สั่งแล้ว คุณแม่ก็ควรรู้จักวิธีป้องกัน เพื่อไม่ให้ลูกน้อยกลับไปเกิดอาการป่วยอีกครั้ง

          - พยายามให้ลูกกินนมแม่ให้ได้นานเท่าที่จะทำได้ เพราะเป็นทางเดียวที่ทารกจะได้รับทั้งสารอาหาร ทั้งภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุด

          - คุณแม่ควรศึกษาเรื่องอาหารและยาที่ตัวเองรับประทานให้ละเอียดถี่ถ้วน ว่าจะส่งผลดีหรือผลเสียต่อลูกอย่างไรบ้าง

          - ระมัดระวังเรื่องความสะอาดของสิ่งของรอบตัวเด็ก ไม่ว่าจะเป็นภาชนะอาหาร ของเล่น เสื้อผ้า และที่นอน

          - เปิดบ้านให้อากาศถ่ายเท และไม่ควรสูบบุหรี่ จุดไฟ จุดธูปเทียน หรืออะไรก็ตามที่ทำให้เกิดควัน แล้วกระทบต่อการหายใจของลูก

          - หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนแออัด หรือบริเวณที่เกิดโรคระบาด
  รู้อย่างนี้แล้ว ก็อย่าลืมเปลี่ยนพฤติกรรม แล้วดูแลเอาใจใส่เรื่องความสะอาดให้พิถีพิถันกว่าเดิมกันด้วยนะคะ ลูกน้อยจะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ



ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก :baby.kapook , pobpad , everydayhealth

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เงินอุดหนุนบุตรเดือนกรกฎาคม 2565 โอน 600 บาท เข้าบัญชีพ่อแม่วันนี้ เช็กเลย

    เงินอุดหนุนบุตร เดือนกรกฎาคม 2565 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เผย เงินอุดหนุนเด็ก 600 บาท ออกวันศุกร์ที่ 8 กร...