วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2563

COVID-19 ดูแลลูกน้อยอย่างไรให้ห่างไกลจากไวรัสตัวร้าย





    COVID-19 หรือ โคโรนาไวรัส ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ มีโอกาสที่เด็ก ๆ จะติดเชื้อได้มากแค่ไหน และจะมีวิธีป้องกันลูกน้อยให้ห่างไกลจากโควิด-19 ได้อย่างไรบ้าง มาหาคำตอบกัน


COVID-19 (โควิด-19) ไวรัสตัวนี้ได้สร้างความตระหนกให้ผู้คนทั่วโลก และถึงแม้รายงานการติดเชื้อส่วนใหญ่จะพบในผู้ใหญ่ แต่ก็ยังมีรายงานการติดเชื้อในเด็ก รวมทั้งเด็กแรกเกิดอายุเพียงไม่ถึงเดือนด้วย เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่คงกังวลใจไม่น้อยว่าจะป้องกันลูก ๆ จากโรคระบาดนี้อย่างไร ยิ่งในเด็กเล็กที่ยังดูแลตัวเองไม่ได้ ครอบครัวจึงต้องมีส่วนช่วยดูแลอย่างมาก วันนี้มีวิธีดูแลสุขภาพลูกน้อยอย่างไรให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อโควิดมาฝาก

การติดเชื้อ COVID-19 ในเด็ก อันตรายแค่ไหน
เชื้อไวรัสโควิด-19 มีระยะฟักตัวที่ 2-14 วันเป็นส่วนใหญ่ และบางรายอาจจะถึง 1 เดือน ผู้ป่วยส่วนหนึ่งอาจไม่มีอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อให้กับผู้อื่นได้ ส่วนเด็ก ๆ นั้น นับว่าโชคดีที่เด็กจะมีโอกาสติดเชื้อน้อยมาก ราว 1-2% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด ทั้งนี้ เด็กส่วนหนึ่งอาจติดเชื้อโดยไม่มีอาการ และส่วนหนึ่งอาจมีอาการเล็กน้อยเหมือนเป็นไข้หวัดทั่วไป เช่น มีไข้ หรืออุณหภูมิร่างกายเกิน 37.5 องศา เจ็บคอ ไอ มีน้ำมูก หายใจหอบเหนื่อย แต่มักจะหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์

สำหรับอัตราการเสียชีวิต พบว่าในเด็กที่อายุ 0-10 ปี ยังไม่มีการเสียชีวิตเลย ส่วนในเด็กที่อายุ 10-19 ปี มีอัตราการเสียชีวิตอยู่เพียง 0.1% ดังนั้นอยากให้คุณพ่อคุณแม่เบาใจก่อนว่าเด็ก ๆ ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงหลัก และเรายังสามารถป้องกันลูกน้อยจากเชื้อ COVID-19 ได้ หากทำตามข้อแนะนำเหล่านี้ 


วิธีป้องกันลูกน้อยจาก COVID-19

1. คอยสำรวจสุขภาพของลูกอยู่เสมอ
ด่านแรกที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำเป็นประจำทุกวัน คือการวัดอุณหภูมิร่างกายของลูก หากพบว่าเด็กไม่สบาย ควรหยุดเรียน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ แม้ว่าจะเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดาก็ตาม

2. สอนลูกให้ล้างมืออย่างถูกวิธี
ฝึกให้เด็ก ๆ ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำสบู่ เป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาที ทริกง่าย ๆ เพียงให้ร้องเพลงช้าง หรือ Happy Birthday 2 รอบ ก็จะครบเวลาพอดี หรือสามารถเลือกใช้น้ำยาล้างมือที่มีแอลกอฮอล์เข้มข้นอย่างน้อย 60% เป็นเวลา 1 นาที นอกจากนี้ยังควรย้ำให้ลูกล้างมือบ่อย ๆ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหาร หลังสั่งน้ำมูก ไอ หรือจาม เมื่อใช้ห้องน้ำ และหลังกลับมาจากที่สาธารณะ

3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า
หลีกเลี่ยงการให้ลูกใช้มือจับบริเวณใบหน้า เพราะมือเป็นส่วนที่สัมผัสสิ่งของหลายอย่าง ซึ่งเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าสิ่งของที่สัมผัสมีเชื้อโรคติดมาไหม ดังนั้นไม่ควรให้ลูกเอามือมาขยี้ตา จับหน้า จับปากหรือจมูก รวมถึงการแคะ แกะ เกาต่างๆ

4. เวลาไอหรือจาม ให้ใช้ข้อศอกหรือทิชชูรองมือ
ข้อนี้เป็นวิธีการดูแลตัวเองเบื้องต้น คือสอนให้ลูกรู้จักปิดปากทุกครั้งที่ไอหรือจาม โดยควรใช้ช่วงข้อพับข้อศอกป้องจมูกและปาก หรือใช้กระดาษทิชชูรอง จากนั้นล้างมือให้สะอาด เพื่อป้องกันละอองน้ำมูกแพร่กระจาย หรือถ้าจามใส่มือก็ควรรีบล้างมือทันที


5. หลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะร่วมกับใคร
สร้างนิสัยกินร้อน ช้อนกลางให้กับเด็ก ทางที่ดีควรมีช้อนกลางของตัวเอง ไม่ใช้ร่วมกับใคร เพื่อความมั่นใจ ส่วนอาหารที่ปรุงสุกร้อน ๆ ใหม่ ๆ นั้น จะปลอดภัยจากเชื้อไวรัสแน่นอน วิธีนี้ไม่ใช่ทำเฉพาะแค่ช่วงนี้ แต่ควรฝึกให้เป็นนิสัย เพราะยังมีเชื้อโรคต่าง ๆ อีกมากมายที่สามารถติดต่อได้จากคนสู่คน

6. หลีกเลี่ยงการพาเด็กๆ ไปสถานที่ชุมชนคนเยอะ
วิธีหนึ่งที่จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั่นคือพยายามเลี่ยงการพาลูกไปห้าง หรือสถานที่ที่มีคนอยู่รวมตัวกันเยอะ ๆ อากาศถ่ายเทไม่สะดวกไปก่อน หากต้องการจะพาบุตรหลานไปเที่ยว ควรเลือกสถานที่โปร่ง ๆ อากาศดี ๆ เช่น สวนสาธารณะ ทะเล นอกจากจะช่วยเพิ่มความสดชื่นแล้ว ยังเป็นการพาลูกไปเปิดหูเปิดตากับธรรมชาติสวย ๆ ด้วย

7. สวมหน้ากากอนามัย
 เตรียมหน้ากากอนามัยให้ลูกสวมป้องกันไวรัส เมื่อต้องเข้าไปในที่สาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า รถใต้ดิน หรือเมื่อเด็กมีอาการของระบบทางเดินหายใจ โดยเมื่อใส่แล้วจะต้องไม่มาสัมผัสบริเวณด้านหน้าของหน้ากาก และล้างมือให้สะอาดหลังจากถอดหน้ากากอนามัย

8. ยกเลิกทริปต่างประเทศช่วงซัมเมอร์นี้ไปก่อน
ช่วงปิดเทอมหลายครอบครัววางแผนไว้ว่าจะไปเที่ยวต่างประเทศกัน แนะนำว่าควรพับโครงการไปก่อน ยิ่งในประเทศกลุ่มเสี่ยงด้วยแล้ว ไม่ควรเดินทางไปอย่างเด็ดขาดในช่วงนี้ เพราะถ้ามีใครในทริปติดเชื้อขึ้นมาคงไม่คุ้มแน่ ๆ

9. หากิจกรรมให้ลูกทำในช่วงอยู่บ้าน
แม้เป็นช่วงที่โรคระบาด แต่เด็ก ๆ ก็ยังต้องการความสนุกสนานประจำวัน เพื่อส่งเสริมพัฒนาการตามวัย คุณพ่อคุณแม่จึงควรหากิจกรรมทำให้ลูกรู้สึกผ่อนคลาย เช่น ชวนลูกทำขนมกินเอง วาดรูป ระบายสี ฝึกอ่านหนังสือ แต่ควรหลีกเลี่ยงการให้ลูกดูข่าวเกี่ยวกับโรคโควิด-19 เพราะอาจทำให้เด็กเครียดและเกิดความกลัวได้



10. ทำประกันโรคโควิด-19 ให้อุ่นใจ
ช่วงนี้บริษัทประกันหลายแห่งมีผลิตภัณฑ์ประกันโคโรนาไวรัสที่ให้ความคุ้มครองเป็นหลักแสนบาทขึ้นไป ซึ่งเด็ก ๆ ก็สามารถทำได้ ผู้ปกครองลองศึกษาข้อมูลและเลือกทำให้บุตรหลาน เพื่อความอุ่นใจและเผื่อฉุกเฉิน ก็ถือเป็นไอเดียที่น่าสนใจ

ถึงจะป้องกันทุกวิถีทางแล้ว แต่หากสังเกตได้ว่าลูกเริ่มไอ มีไข้ หรือหายใจติดขัด อย่ารอช้า ควรปรึกษาแพทย์ทันที และให้ลูกอยู่ในห้องที่เตรียมไว้แยกจากสมาชิกครอบครัวคนอื่น ๆ หรือถ้ามีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถโทรสายด่วน กรมควบคุมโรค 1422 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : baby.kapook, unicef , siriraj channel, เฟซบุ๊ก ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก รพ.รามาธิบดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เงินอุดหนุนบุตรเดือนกรกฎาคม 2565 โอน 600 บาท เข้าบัญชีพ่อแม่วันนี้ เช็กเลย

    เงินอุดหนุนบุตร เดือนกรกฎาคม 2565 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เผย เงินอุดหนุนเด็ก 600 บาท ออกวันศุกร์ที่ 8 กร...