วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2563

ลูกแรกเกิดหายใจแรง เกิดจากอะไร และมีวิธีสังเกตทารกหายใจแรงอย่างไรบ้าง


        ลูกแรกเกิดหายใจแรง และภาวะทารกหายใจเร็ว มีสาเหตุมาจากอะไร คุณพ่อคุณแม่ท่านใดที่กังวลว่าลูกหายใจแรง ลูกหายใจเสียงครืดคราด จะเป็นอันตรายไหม วันนี้เรามีคำตอบและวิธีสังเกตการหายใจของลูกน้อยมาฝากกันแล้วค่ะ

สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลายคนอาจเป็นกังวลเมื่อลูกแรกเกิดหายใจแรง หรือหายใจเร็ว ในทารกบางคนอาจมีเสียงหายใจดังครืดคราด คล้ายกับการกรน ซึ่งสาเหตุของภาวะหายใจแรงในเด็กทารกเกิดจากอะไร และจะเป็นอันตรายต่อทารกหรือไม่นั้น วันนี้ก็มีความรู้และคำแนะนำดี ๆ พร้อมกับวิธีสังเกตการหายใจของลูกน้อยมาฝากกันแล้วค่ะ

ในเด็กทารกแรกเกิดจะมีการหายใจเป็นจังหวะ คือหายใจเร็วและลึก จากนั้นจะหายใจช้าและตื้นขึ้น อาจมีอาการหายใจแรง และมีเสียงดังครืดคราดระหว่างนอน เป็นเพราะว่าช่องลมของลูกยังมีขนาดเล็ก หลอดลมที่อยู่ด้านหน้ากระดูกอ่อนที่เป็นโครงสร้างของหลอดลมยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ จึงทำให้หลอดลมมาขวางอากาศที่หายใจ หรืออาจเป็นเพราะมีเมือกมาบังช่องอากาศที่ลูกหายใจ จนทำให้ลูกนอนกรน หรือหายใจแรงได้ ซึ่งหากทารกสามารถนอนหลับได้สนิท ไม่มีอาการกระสับกระส่าย ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงค่ะ เพราะการหายใจแบบนี้ถือว่าปกติสำหรับเด็กทารกและจะหายไปเมื่อช่องอากาศของลูกค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้น ทำให้หายใจได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเอง

แต่คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยสังเกตการหายใจของลูกอยู่เสมอนะคะ หากลูกหายใจผิดปกติ เช่น หายใจเร็ว หอบเหนื่อย หายใจลำบาก หายใจเสียงเหมือนนกหวีด มีเสียงแหลมสูง หรือมีอาการไอร่วมด้วย ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์โดยด่วน เพราะอาจเกิดจาก ไข้หวัด ทำให้มีน้ำมูก มีเสมหะอุดตันหลอดลม หรืออาจเป็นโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจได้ เช่น ปอดบวม ปอดอักเสบ เป็นต้น

ทั้งนี้เด็กแรกเกิดหายใจแรงอาจเป็นภาวะปกติ หรืออาจส่งสัญญาณอันตรายบางอย่างที่บ่งบอกถึงความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่เรียนรู้วิธีสังเกตการหายใจเข้า-ออก พร้อมกับดูลักษณะการเคลื่อนไหวของทรวงอกขณะที่ลูกหายใจ ก็จะช่วยให้ทราบถึงอาการผิดปกติได้อย่างรวดเร็วค่ะ

ตามปกติแล้วเด็กเล็กมักจะหายใจเร็ว ซึ่งอัตราการหายใจของเด็กแรกเกิด-2 เดือน จะอยู่ที่ 60 ครั้งต่อนาที เมื่อโตขึ้น อายุ 2 เดือน-1 ขวบ อยู่ที่ 50 ครั้งต่อนาที แต่เมื่ออายุ 1-3 ขวบขึ้นไป อัตราการหายใจของลูกจะเริ่มลดลง และจะเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ประมาณ 20-30 ครั้งต่อนาที โดยวิธีที่ง่ายที่สุดในการสังเกตการหายใจของลูกน้อย ก็คือการนับอัตราการหายใจนั่นเองค่ะ จะช่วยให้ทราบว่าเด็กมีการหายใจเพียงพอหรือไม่ ซึ่งวิธีการนับอัตราการหายใจ ต้องนับให้ครบ 1 นาที (60 วินาที) ขณะที่เด็กพักอยู่นิ่ง ๆ อาจเป็นช่วงนั่ง หรือนอนเฉย ๆ เพราะหากนับตอนที่เด็กร้องไห้ จะได้ค่าคลาดเคลื่อนไม่ตรงกับความจริง 


วิธีสังเกตการหายใจของลูก

- ฟังเสียงหายใจของลูกระหว่างหลับ โดยเอาหูแนบกับจมูกหรือปากของลูก มีเสียงเป็นอย่างไร มีความผิดปกติหรือไม่

- ใช้หลังมือ หรือแก้มสัมผัสลมหายใจของลูกว่ามีความชื้นหรืออุณหภูมิเป็นอย่างไรบ้าง

- สังเกตการเคลื่อนไหวของหน้าอกและหน้าท้องของลูกน้อย โดยใช้มือสัมผัสหน้าท้องเบา ๆ ขณะนับการเคลื่อนไหว พร้อมกับจับเวลา 1 นาที (60 วินาที)


อาการใดที่ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์

- หากพบว่าลูกมีเสียงหายใจดังวี้ด ๆ หรือมีเสียงดังครืดคราดคล้ายกับคัดจมูก หรือหายใจไม่ออก

- ลูกมีอัตราการหายใจมากกว่า 60 ครั้งต่อนาที

- ระหว่างลูกหายใจเข้า ช่วงกล้ามเนื้อหน้าอกมีการหดตัวลึกกว่าปกติ มีลักษณะชายโครงบุ๋มเข้า

- มือ ปาก และหน้ามีความซีด คล้ำ บ่งบอกว่าออกซิเจนในเลือดต่ำ


เมื่อคุณพ่อคุณแม่ได้ทราบแล้วว่าสาเหตุที่ลูกแรกเกิดหายใจแรง เกิดจากอะไร ก็คงจะช่วยคลายความสงสัยได้บ้างนะคะ ทั้งนี้ก็ควรสังเกตการหายใจของลูกน้อยอยู่เสมอ หากพบอาการผิดปกติตามที่กล่าวมา ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์โดยด่วนค่ะ


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : baby.kapook, healthline , babygaga , th.wikipedia 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เงินอุดหนุนบุตรเดือนกรกฎาคม 2565 โอน 600 บาท เข้าบัญชีพ่อแม่วันนี้ เช็กเลย

    เงินอุดหนุนบุตร เดือนกรกฎาคม 2565 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เผย เงินอุดหนุนเด็ก 600 บาท ออกวันศุกร์ที่ 8 กร...