วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2563

อย่านิ่งนอนใจ เลือดกำเดาไหลในเด็ก



     เลือดกำเดาไหลในเด็ก สาเหตุเกิดจากอะไร หรืออาจจะเป็นสัญญาณเตือนบอกโรคของลูกก็ได้ค่ะ คุณพ่อคุณแม่อย่านิ่งนอนใจไปนะคะ วันนี้ มีเกร็ดความรู้เรื่องเลือดกำเดาไหล พร้อมวิธีการดูแลเบื้องต้น มาฝากกันด้วยค่ะ ส่วนเลือดกำเดาไหลจะเกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง เราไปหาคำตอบกันเลย


เลือดกำเดาไหล คือการมีเลือดออกมาจากรูจมูก โพรงจมูก หรือหลังโพรงจมูก มักจะพบในเด็กช่วงอายุ 2-10 ขวบ เป็นอาการที่พบได้ในเด็กหรือแม้แต่ผู้ใหญ่ มาดูวิธีการรับมือกับเรื่องนี้สำหรับลูกน้อยกันค่ะ

สาเหตุ เลือดกำเดาไหลนั้นมีได้หลายสาเหตุได้แก่

- เส้นเลือดฝอยในโพรงจมูกแตก เนื่องจากอากาศแห้ง ร้อนจัดหรือหนาวจัด

- เกิดการกระทบกระเทือน เช่น ถูกเพื่อนวิ่งชน มีผนังกั้นจมูกผิดปกติ ผนังกั้นจมูกเกิดการอักเสบจากการติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนบนหรือโรคคนแพ้อากาศ

- ร่างกายขาดวิตามินซี

- ความผิดปกติของระบบร่างกาย เช่น ระบบการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ และโรคเลือดต่าง ๆ

วิธีรับมือ โดยทั่วไป เมื่อเด็กมีเลือดกำเดาไหล จะหยุดเองภายในไม่เกิน 5 นาที และสามารถช่วยเหลือเบื้องต้นได้โดย

- ให้เด็กนั่งตัวตรงหายใจทางปาก และใช้กระดาษชำระม้วนเป็นแท่งเล็ก ๆ อุดในรูจมูก

- หรือใช้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือบีบปีกจมูกทั้งสองข้างให้แน่น อาจวางผ้าเย็นหรือถุงน้ำแข็งบนดั้งจมูกด้วยก็ได้

- หากเลือดออกไม่หยุดหรือออกมากผิดปกติ ควรพาลูกไปพบคุณหมอ เพื่อตรวจ และดูแลให้เหมาะสม

- ไม่ควรให้ลูกเอนหลังแหงนหน้า เพราะอาจทำให้ลูกขย้อน สำลัก อาเจียน

นอกจากนี้ หากเลือดไหลไม่หยุด อาจต้องทำการห้ามเลือดโดยการจี้ด้วยสารเคมีหรือไฟฟ้า เพื่อหยุดเลือดกำเดาไหลทางด้านหน้า หรือใส่วัสดุห้ามเลือดในจมูก หรือผูกหลอดเลือดแดงเพื่อให้เลือดหยุด แล้วหาสาเหตุ เพื่อรักษาตามสาเหตุนั้น ๆ

อย่านิ่งนอนใจ

- เลือดกำเดาไหลบ่อย ๆ เลือดออกเป็นจำนวนมาก

- มีรอยช้ำจ้ำเขียว มีเลือดออกมากจากบาดแผลเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ

- มีอาการเวียนศีรษะหรือหน้าซีดร่วม

สิ่งที่บอกถือเป็นข้อสังเกตง่าย ๆ ที่คุณแม่ควรพาลูกไปพบคุณหมอ เพื่อตรวจเช็กให้ละเอียดเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะอาจเป็นเรื่องอื่นที่นอกเหนือจากเรื่องเลือดกำเดาไหลได้ค่ะ

การป้องกัน

- ไม่ควรให้เด็กไปวิ่งเล่นกลางแจ้งนาน ๆ โดยเฉพาะเวลาอากาศร้อนจัด

- ห้ามแคะจมูก ไม่ควรให้จมูกได้รับการกระทบกระเทือน

- ให้ลูกได้ออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่

- สร้างภูมิต้านทาน เสริมวิตามินซีจากผักหรือผลไม้ เช่น ส้ม ฝรั่ง

- การตัดเล็บลูกให้สั้น และสอนไม่ให้ลูกแคะหรือแกะเกาจมูก ก็เป็นการป้องกันทางหนึ่ง

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : baby.kapook,นิตยสาร Mother & Care

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เงินอุดหนุนบุตรเดือนกรกฎาคม 2565 โอน 600 บาท เข้าบัญชีพ่อแม่วันนี้ เช็กเลย

    เงินอุดหนุนบุตร เดือนกรกฎาคม 2565 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เผย เงินอุดหนุนเด็ก 600 บาท ออกวันศุกร์ที่ 8 กร...